แจกแนวข้อสอบ นักเรียนอุตุนิยมวิทยา
ความหมายของอุตุนิยมวิทยา (Meteorology)
–อุตุ (ส.)= ฤดู นิยม (ส.)= การกำหนด
–อุตุนิยมวิทยา คือ วิทยาศาสตร์ของบรรยากาศและปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของอากาศ เช่น ฝน พายุ ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เป็นต้น อุตุนิยมวิทยาเป็นวิชาสาขาหนึ่งของวิชาภูมิฟิสิกส์ (geophysics) การศึกษาอุตุนิยมวิทยาต้องอาศัยวิชาคำนวณฟิสิกส์ และข้อมูลที่ได้จากการตรวจอากาศตามระดับต่างๆ บนพื้นดินและตามบริเวณต่าง ๆ ของโลก
กาลอากาศ (Weather)
•ลมฟ้าอากาศ
•ปรากฏการณ์ หรือลักษณะอากาศปัจจุบัน หรือในระยะเวลาใกล้ ๆ
อุตุนิยมวิทยาไดนามิก
การศึกษาอุตุนิยมวิทยาไดนามิกต้องอาศัย การศึกษากฎและทฤษฎีกลศาสตร์ของของเหลว (fluid mechanics of hydrodynamic) เพื่อที่จะนำมาอธิบายพฤติการณ์ของบรรยากาศ ในขณะนั้น และเพื่อการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า
อุตุนิยมวิทยาแผนที่อากาศ
การศึกษาอุตุนิยมวิทยาแผนที่อากาศ อาศัยการศึกษาข้อมูลตรวจอากาศจากบริเวณกว้าง เพื่อที่จะทราบสภาวะของบรรยากาศ และเพื่อการพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเช่นกัน
อุตุฯไดนามิก vs อุตุฯแผนที่อากาศ
หรืออาจกล่าวได้ว่าอุตุนิยมวิทยาไดนามิก เป็นการศึกษาด้านทฤษฎี ส่วนอุตุนิยมวิทยาแผนที่อากาศ เป็นการศึกษา ลักษณะของอากาศในปัจจุบันหรือประจำวัน ซึ่งเรียกว่า " กาลอากาศ"
ภูมิอากาศ (Climat)
ภูมิอากาศ หมายถึงการศึกษาสภาพของบรรยากาศ ลมฟ้าอากาศ หรืออากาศประจำถิ่นของบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เพื่อที่จะนำไปช่วยในการพยากรณ์อากาศ และนำไปใช้เป็นประโยชน์ในกิจการต่าง ๆ จากคำอธิบายนี้ จะเห็นได้ว่า ภูมิอากาศก็คือผลเฉลี่ยระยะยาวของอุณหภูมิ ฝน ลม และ”สารประกอบอุตุนิยมวิทยา”อื่น ๆ ของกาลอากาศนั่นเอง
กาลอากาศ vs ภูมิอากาศ
หรืออาจจะกล่าวได้ว่า กาลอากาศ คือพฤติการณ์หรือปรากฏการณ์ของกาลอากาศปัจจุบัน ส่วนภูมิอากาศเป็นผลเฉลี่ยของกาลอากาศปัจจุบัน ส่วนภูมิอากาศเป็นผลเฉลี่ยของกาลอากาศในระยะยาว (ตามธรรมดาตั้งแต่ ๓๐ หรือ ๓๕ ปีขึ้นไป) ตัวอย่างเช่น วันนี้กาลอากาศของกรุงเทพมหานครมีฝนตก ส่วนกรุงเทพมหานครนั้น อยู่ในภูมิอากาศของโซนร้อนและชื้น เป็นต้น
ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศ คือ ผลสรุปหรือผลเฉลี่ยระยะยาวของสภาพอากาศหรือกาลอากาศจากระยะเวลานานประมาณ ๓๐ หรือ ๓๕ ปีขึ้นไป
ภูมิอากาศของบริเวณใดจะร้อนหรือเย็น จะแห้งแล้งหรือชุ่มชื้นนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลหลายประการ
ปัจจัยที่มีผลต่อภูมิอากาศ
1. ความเข้มของรังสีจากดวงอาทิตย์ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับละติจูด คือ ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรย่อมได้รับความร้อนมากกว่าที่บริเวณขั้วโลก
2. บริเวณนั้นอยู่ใกล้พื้นน้ำหรือผืนแผ่นดิน บริเวณที่อยู่ใกล้พื้นน้ำหรือทะเลจะมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ส่วนบริเวณที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงได้มาก
3. ความสูงของพื้นที่ บริเวณที่อยู่สูงย่อมจะเย็นกว่าบริเวณที่ต่ำกว่า
4. ทิศทางของกระแสลมและกระแสน้ำ ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่บังคับอุณหภูมิให้ร้อนหรือเย็นได้
5. เทือกเขา ซึ่งสามารถกั้นอากาศร้อนหรือเย็นไม่ให้ผ่านได้นอกจากนี้ด้านรับลมของภูเขาจะมีฝนตกมากกว่าบริเวณด้านอับลม
6. เส้นทางเดินของพายุ จะทำให้ฝนตกชุกตามบริเวณนั้นๆ มาก
1. ความเข้มของรังสีจากดวงอาทิตย์
ขึ้นอยู่กับละติจูด คือ ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรย่อมได้รับความร้อนมากกว่าที่บริเวณขั้วโลก
หน้าที่เข้าชม | 8,081,704 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 5,459,238 ครั้ง |
เปิดร้าน | 13 ส.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |